สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังการเปิดเผยข้อมูลที่ระบุว่าสหรัฐทำการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมสัปดาห์นี้
ณ เวลา 21.44 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 74 เซนต์ หรือ 1.26% สู่ระดับ 58.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI พุ่งแตะระดับ 59.05 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันศุกร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2558 หลังมีข่าวว่า บริษัททรานส์แคนาดา คอร์ป จะลดการจ่ายน้ำมันลง 85% ผ่านทางท่อส่งน้ำมันคีย์สโตนไปยังสหรัฐจนถึงสิ้นเดือนนี้ หลังมีการปิดท่อส่งน้ำมันในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากพบการรั่วไหลของน้ำมันจำนวน 5 พันบาร์เรลในรัฐเซาท์ ดาโกตา
ตามปกติ ท่อส่งน้ำมันคีย์สโตนจะส่งน้ำมันดิบ 590,000 บาร์เรล/วันจากรัฐอัลเบอร์ตาของแคนาดาไปยังตลาดสหรัฐ
การผลิตน้ำมันในสหรัฐพุ่งขึ้น 15% นับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว สู่ระดับ 9.66 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสหรัฐเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสหรัฐจะเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันมากที่สุดในโลกภายในเวลา 5 ปี
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 9 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งจะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียต่างก็สนับสนุนให้มีการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า