สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และกลุ่มผู้ผลิตนอกโอเปก เห็นพ้องให้ขยายเวลาลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 57.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 63.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากคาลิด อัล-ฟาลีห์ ประธานกลุ่มโอเปก และรัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบีย แถลงว่า โอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปอีก 9 เดือนจนถึงสิ้นปีหน้า จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในไตรมาสแรกของปีหน้า
ทางด้านไนจีเรีย และลิเบียยังได้ตกลงที่จะไม่เพิ่มกำลังการผลิตเหนือระดับของปีนี้ โดยทั้ง 2 ประเทศได้รับการยกเว้นจากการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในประเทศ
นอกจากนี้ โอเปกและกลุ่มนอกโอเปกอาจทำการทบทวนข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมิ.ย.ปีหน้า ถ้าหากตลาดน้ำมันอยู่ในภาวะร้อนแรงเกินไป อันเป็นผลจากการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ รัสเซียได้แสดงความกังวลว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน อาจส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐกลับมาเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันราคาในตลาด