สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 1.18% ปิดที่ 57.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ปิดที่ 63.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกลาง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล พร้อมกับเปิดเผยแผนการย้ายสถานทูตสหรัฐจากกรุงเทลอาวีฟไปยังกรุงเยรูซาเลม
นายอัชราฟ อัล-เคดรา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา กล่าวว่า ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บกว่า 270 คนเมื่อวานนี้จากการปะทะกับทหารอิสราเอล
ทั้งนี้ ชาวปาเลสไตน์ได้พากันเดินขบวนประท้วงตามคำเรียกร้องของผู้นำปาเลสไตน์ ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส และผู้นำของขบวนการฮามาส เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการที่ปธน.ทรัมป์ให้การรับรองอย่างเป็นทางการให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
ขณะที่เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 751 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. และสูงกว่าระดับ 498 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
เบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา
ตลอดสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1.7% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 0.6%