สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ในทะเลเหนือของอังกฤษ จะปิดทำการซ่อมแซมเป็นเวลาหลายสัปดาห์ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังปรับตัวขึ้น หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายในย่านไทม์สแควร์ของสหรัฐเมื่อวานนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 57.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 64.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจากสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ท่อส่งน้ำมัน Forties ในทะเลเหนือ จะปิดทำการเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ได้พบรอยแตกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยท่อส่งนำมันแห่งนี้สามารถลำเลียงน้ำมันได้ในปริมาณ 450,000 บาร์เรลต่อวัน จากบ่อน้ำมันนอกชายฝั่งของทะเลเหนือ ไปยังโรงกลั่นน้ำมันในสก็อตแลนด์
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การปิดท่อส่งน้ำมัน Forties จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดปรับตัวลดลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาน่ำมันต่อไปอีกระยะหนึ่ง
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังพุ่งขึ้นหลังจากมีรายงานข่าวว่า เกิดเหตุระเบิดในย่านไทม์สแควร์ เมืองแมนฮัตตันของสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยนายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการก่อการร้าย และส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน
รายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.20 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 19.20 น.ตามเวลาไทย เมื่อวานนี้ ใกล้กับสถานีรถขนส่งในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นสถานีที่มีจำนวนรถขนส่งคับคั่งที่สุดในโลก ขณะที่ตำรวจได้ทำการอพยพประชาชนออกจากสถานีรถไฟใต้ดินในบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ตำรวจนิวยอร์กสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งเป็นชายวัย 27 ปี
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้