สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ สืบเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ในทะเลเหนือของอังกฤษ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 85 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 57.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 63.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศรับรองให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล รวมทั้งปัจจัยล่าสุดจากข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันโฟร์ตี้ส์ในทะเลเหนือของอังกฤษ หลังจากที่มีการพบรอยแตกของท่อส่งน้ำมัน
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐโดยเฉลี่ยในปี 2561 ขึ้นสู่ระดับ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลงราว 3.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน