สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงเช่นกัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 58.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 64.56 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3.8 ล้านบาร์เรล และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5
รายงานของ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 769,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 870,000 บาร์เรล
ก่อนหน้านี้ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันโฟร์ตี้ส์ในทะเลเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดส่งน้ำมัน 450,000 บาร์เรล/วันในเดือนนี้ หลังจากที่มีการพบรอยแตกของท่อส่งน้ำมัน รวมทั้งรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 4 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์