สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงเกือบ 1% ในวันนี้ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากราคาดีดตัวขึ้นก่อนหน้านี้
ณ เวลา 19.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 57 เซนต์ หรือ 0.92% สู่ระดับ 61.43 ดอลลาร์/บาร์เรล
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภาวะน้ำมันตึงตัวในสหรัฐ, การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก), ความไม่สงบในอิหร่าน และความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐ อันเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 7.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 5.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.0 ล้านบาร์เรล
ชาวอิหร่านได้รวมตัวกันชุมนุมในเมืองมัชฮัดในวันพฤหัสบดีที่แล้ว เพื่อประท้วงรัฐบาลซึ่งไม่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน แต่การชุมนุมได้ขยายวงกว้างไปอีกหลายเมืองทั่วประเทศ ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนต่อการทุจริตของเจ้าหน้าที่, เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น และนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล
ทางด้านโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงปลายปีนี้ จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
สำนักงานบริการข้อมูลสภาพอากาศแห่งชาติสหรัฐ (NWS) รายงานว่า พายุฤดูหนาว หรือ"ระเบิดไซโคลน" (bomb cyclone) กำลังถล่มแถบตะวันออกของสหรัฐ ซึ่งจะทำให้เกิดหิมะตกหนัก และลมกรรโชกแรงในแถบชายฝั่งมิด-แอตแลนติกไปจนถึงทางใต้ของนิวอิงแลนด์ และพายุจะเคลื่อนตัวไปยังแถบตะวันออกเฉียงเหนือ
NWS เรียกพายุดังกล่าวว่าเป็นระเบิดไซโคลน เนื่องจากมีความเร็วลมสูง และความกดอากาศต่ำอย่างที่แทบไม่เคยปรากฎมาก่อน โดยมีความเร็วลมสูงถึง 60 ไมล์/ชั่วโมง และมีความหนาวเย็นระดับขั้วโลกเหนือ
NWS ยังเตือนว่าเมืองแอตแลนติก ซิตี้ จะเผชิญกับหิมะหนาถึง 18 นิ้ว ซึ่งจะทำให้การเดินทางมีอันตรายอย่างมาก
พายุดังกล่าวส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 3,000 เที่ยวในวันนี้ ขณะที่โรงเรียน และบริษัทจำนวนมากประกาศปิดทำการชั่วคราว