สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐมีจำนวนลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 61.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 67.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 742 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
ทั้งนี้ แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2558
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากเจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งจากกลุ่มโอเปก ระบุว่า โอเปกกำลังจับตาเหตุการณ์ความไม่สงบในอิหร่าน และวิกฤตเศรษฐกิจในเวเนซุเอลา แต่โอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ก็ต่อเมื่อการผลิตน้ำมันจากทั้ง 2 ประเทศดังกล่าวประสบปัญหาชะงักงันอย่างหนัก และอย่างต่อเนื่อง
"แม้อิหร่าน และเวเนซุเอลาประสบปัญหาการผลิตน้ำมัน โอเปกก็จะยังไม่เพิ่มกำลังการผลิต นอกจากว่าการผลิตน้ำมันหายไป 1,000,000 บาร์เรล/วันเป็นเวลามากกว่า 1 เดือน จนทำให้ผู้บริโภคขาดแคลนน้ำมัน" เจ้าหน้าที่โอเปกรายดังกล่าวระบุ
นักลงทุนจับตาสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันพรุ่งนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย