สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) จากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 62.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2557
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 68.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนธ.ค. 2557
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงราว 4.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิหร่าน และวิกฤตเศรษฐกิจในเวเนซุเอลา รวมทั้งจากการที่เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 742 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะมีการขยายตัวมากกว่าการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกทั้งในปีนี้ และปีหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันจะมีแนวโน้มไม่ต่ำกว่าระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล