สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 57 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 63.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.11 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 69.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 5 วันทำการ ขณะเดียวกันนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ EIA จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบและการผลิตน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้
ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ม.ค. มีแนวโน้มลดลง 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกันคาดว่า สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยกดดันหลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 แท่น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว สู่ระดับ 752 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา