สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงเกือบ 1% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ แม้มีการเปิดเผยถึงการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบ
ณ เวลา 23.02 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.88% สู่ระดับ 63.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันทำสถิติทรุดตัวลงในสัปดาห์นี้มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานในวันนี้ระบุว่า สหรัฐมีแนวโน้มครองอันดับประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลกในปีนี้ โดยแซงหน้ารัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย
ปัจจุบันรัสเซียเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก ตามมาด้วยซาอุดิอาระเบีย
IEA ระบุว่า ขณะนี้สหรัฐผลิตน้ำมัน 9.9 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 50 ปี โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ซึ่งสร้างแรงจูงใจสำหรับผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) หลังจากที่ได้ลดกำลังการผลิตลงในช่วงที่ราคาน้ำมันตกต่ำ
IEA คาดการณ์ว่า สหรัฐจะเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับสูงกว่า 10 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ หากรัสเซีย และซาอุดิอาระเบียยังคงปรับลดกำลังการผลิตถึงสิ้นปีนี้ตามข้อตกลงที่ทำไว้ระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก
ขณะเดียวกัน IEA ยังคงตัวเลขอุปสงค์น้ำมันระดับโลกในปี 2560 และ 2561 ที่ระดับ 97.8 ล้านบาร์เรล/วัน และ 99.1 ล้านบาร์เรล/วันตามลำดับ
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 6.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 412.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล