สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุ 64 ดอลลาร์ในวันนี้ จากการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกกลุ่มโอเปก เช่น รัสเซีย ทำการปรับลดกำลังการผลิต
ณ เวลา 00.04 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.24% สู่ระดับ 64.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
IMF ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 3.9% โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.2%
IMF ระบุว่า การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุจากแรงผลักดันการขยายตัวในระดับโลกที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากอานิสงส์ของการที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำการปฏิรูประบบภาษี
ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่สหรัฐลดการขุดเจาะน้ำมันในสัปดาห์ที่แล้ว
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์ แม้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี
บีเอ็นพี พาริบาส์ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ในปีนี้ สู่ระดับเฉลี่ย 60 ดอลลาร์ และน้ำมันดิบเบรนท์ สู่ระดับ 65 ดอลลาร์
ทางด้านธนาคารบาร์เคลย์สปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้ สู่ระดับเฉลี่ย 60 ดอลลาร์