สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ โดยถูกกดดันจากข้อมูลที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐได้เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 21.23 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.31% สู่ระดับ 64.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากร่วงลงเป็นเวลา 9 สัปดาห์ติดต่อกัน ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้เพื่อยืนยันตัวเลขของ API
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากเศรษฐโลกที่มีการขยายตัวแข็งแกร่ง ซึ่งจะบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้
ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 3.9% โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.2%
IMF ระบุว่า การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุจากแรงผลักดันการขยายตัวในระดับโลกที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากอานิสงส์ของการที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำการปฏิรูประบบภาษี
ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่สหรัฐลดการขุดเจาะน้ำมันในสัปดาห์ที่แล้ว
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์ แม้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี
บีเอ็นพี พาริบาส์ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ในปีนี้ สู่ระดับเฉลี่ย 60 ดอลลาร์ และน้ำมันดิบเบรนท์ สู่ระดับ 65 ดอลลาร์
ทางด้านธนาคารบาร์เคลย์สปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้ สู่ระดับเฉลี่ย 60 ดอลลาร์