สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 65 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งระบุก่อนหน้านี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น
ณ เวลา 23.32 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.12% สู่ระดับ 65.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล โดยสวนทาง API ซึ่งระบุก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล หลังจากร่วงลงเป็นเวลา 9 สัปดาห์ติดต่อกัน
สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 639,000 บาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าร่วงลง 1.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นใกล้แตะระดับ 9.9 ล้านบาร์เรล/วัน ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เหนือระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วัน
ราคาน้ำมันถูกกดดันในช่วงแรก ก่อนการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันของ EIA
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากเศรษฐโลกที่มีการขยายตัวแข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้
ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 3.9% โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.2%
IMF ระบุว่า การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุจากแรงผลักดันการขยายตัวในระดับโลกที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากอานิสงส์ของการที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำการปฏิรูประบบภาษี
ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่สหรัฐลดการขุดเจาะน้ำมันในสัปดาห์ที่แล้ว
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 747 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์ แม้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี
บีเอ็นพี พาริบาส์ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมัน WTI ในปีนี้ สู่ระดับเฉลี่ย 60 ดอลลาร์ และน้ำมันดิบเบรนท์ สู่ระดับ 65 ดอลลาร์
ทางด้านธนาคารบาร์เคลย์สปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้ สู่ระดับเฉลี่ย 60 ดอลลาร์