สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.พ.) หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 65.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 69.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากโกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันพากันปรับลดกำลังการผลิต รวมทั้งจากการคาดการณ์ที่ว่าการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในระดับโลก
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ สู่ระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วง 3 เดือนข้างหน้า จากระดับ 62 ดอลลาร์ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ สู่ระดับ 82.50 ดอลลาร์ และ 75 ดอลลาร์ในช่วง 6 เดือน และ 12 เดือนข้างหน้าตามลำดับ
ตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันของโกลด์แมน แซคส์สูงกว่าเจพีมอร์แกนที่คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะมีราคาเฉลี่ย 70 ดอลลาร์ในปีนี้ โดยจะแตะระดับ 78 ดอลลาร์ในช่วงครึ่งปีแรก ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์คาดการณ์ราคาที่ระดับ 64 ดอลลาร์ในปีนี้
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานผลการสำรวจซึ่งระบุว่า ความร่วมมือของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลง ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 138% ในเดือนม.ค. จากระดับ 137% ในเดือนธ.ค.