สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ก.พ.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังร่วงลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การผลิตน้ำมันในสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 76 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 63.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 76 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 66.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 89.60 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยลบหลังจาก EIA คาดการณ์ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยในสหรัฐปีนี้จะอยู่ที่ 10.59 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 3% จากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อน ส่วนการผลิตน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยในปีหน้าจะอยู่ที่ 11.18 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 3% จากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนเช่นกัน
นักลงทุนจับตาสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ก.พ. จะเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล และคาดว่าสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล