สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐสัปดาห์นี้มีจำนวนสูงสุดในรอบ 3 ปี
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 59.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.02 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 62.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 26 แท่น สู่ระดับ 791 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2558 และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 รวมทั้งเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ แท่นขุดเจาะน้ำมันยังคงมีจำนวนมากกว่าระดับ 591 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นายเจมส์ วิลเลียมส์ นักเศรษฐศาสตร์พลังงานประจำองค์กรวิเคราะห์ด้านพลังงาน WTRG Economics กล่าวว่า จำนวนแท่นขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันไปมากในปีนี้ ซึ่งนับว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
ด้านรายงานประจำเดือนของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐจะแตะระดับเฉลี่ย 10.59 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และพุ่งแตะระดับ 11.18 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งจะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซีย กลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ แม้ว่าราคาน้ำมันทั่วโลกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไม่นานมานี้ หลังการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ แต่ล่าสุด นายเอมีร์ ซามานิเนีย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานของอิหร่านได้ออกมาเปิดเผยว่า อิหร่านมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 700,000 บาร์เรล สู่ระดับ 4.7 ล้านบาร์เรล/วัน ในอีก 4 ปีข้างหน้า
ด้านนายมีเฮอ คาพาเดีย ประธานบริหารและผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุนด้านพลังงาน Sun Global Investments กล่าวว่า นอกจากการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของอิหร่านแล้ว สิ่งที่ตลาดยังต้องจับตามองคือการที่จีนอาจออกสัญญาน้ำมันดิบของตนเองในเดือนหน้า ว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกหรือไม่
สำหรับความเคลื่อนไหวด้านพลังงานในจีนนั้น คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ประกาศเมื่อวานนี้ว่า จีนจะปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 170 หยวน/ตัน และปรับลดราคาน้ำมันดีเซล 160 หยวน/ตัน โดยเริ่มมีผลบังคับในวันนี้