สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนตลาดในวันนี้
ณ เวลา 22.25 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 1.30 สู่ระดับ 59.97 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันนี้ สวนทางยูโรที่ดีดตัวขึ้น จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ณ เวลา 20.32 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.11% สู่ระดับ 108.66 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.20% สู่ระดับ 133.03 เยน และขยับขึ้น 0.07% สู่ระดับ 1.2242 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.12% สู่ระดับ 90.34
ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่า ECB มีแผนที่จะยุติการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย แม้ว่า ECB คงนโยบายการเงินในการประชุมเดือนที่แล้ว
รายงานของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า นักลงทุนยังคงไม่มีความมั่นใจว่าการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา จะสามารถดำเนินไปอย่างยั่งยืน แม้ว่าราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นเกือบ 50% จากช่วงกลางปีที่แล้ว
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่น ได้แก่ การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ
เมื่อปีที่แล้ว โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สำหรับปีนี้ สู่ระดับ 62 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่คาดการณ์ที่ระดับ 59 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมัน WTI คาดว่าจะอยู่ที่ 57.50 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทางด้านกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุในรายงานประจำเดือนก.พ.ว่า โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะมีการขยายตัวในปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ โอเปกยังคาดการณ์ว่า อุปทานน้ำมันจากกลุ่มประเทศนอกโอเปกจะพุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ โดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันในสหรัฐ
ขณะเดียวกัน โอเปกคาดว่าตลาดน้ำมันจะกลับเข้าสู่ภาวะสมดุลในช่วงสิ้นปีนี้
รายงานระบุว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลง 8,000 บาร์เรล/วันในเดือนที่แล้ว สู่ระดับ 32.3 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนการผลิตน้ำมันจากกลุ่มนอกโอเปกจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 250,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ในเดือนม.ค. ขณะที่คาดว่ากลุ่มนอกโอเปกจะผลิตน้ำมัน 59.26 ล้านบาร์เรล/วัน สูงกว่าราว 320,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์เดิม
รายงานยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขการผลิตน้ำมันของสหรัฐสู่ระดับ 150,000 บาร์เรล/วัน
โอเปกคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะมีการขยายตัว 1.59 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเพิ่มขึ้น 60,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์เดิม ส่งผลให้อุปสงค์รวมทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 98.6 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 26 แท่น สู่ระดับ 791 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2558 และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 รวมทั้งเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว
นอกจากนี้ แท่นขุดเจาะน้ำมันยังคงมีจำนวนมากกว่าระดับ 591 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สหรัฐผลิตน้ำมันดิบ 10.25 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA คาดการณ์ว่า ผลผลิตน้ำมันของสหรัฐจะแตะระดับเฉลี่ย 10.59 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และพุ่งแตะระดับ 11.18 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งจะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซีย กลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก