สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ หลังมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แสดงถึงการชะลอตัวของภาคการผลิตในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก
ณ เวลา 19.05 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.22% สู่ระดับ 62.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนมีความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน หลังจากที่จีน, อินเดีย และญี่ปุ่นรายงานการชะลอตัวของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต
ทั้งนี้ จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2559 ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นลดลงนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในเดือนมี.ค.2554 ส่วนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของอินเดียแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากการดิ่งลงของยอดสั่งซื้อใหม่
นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด
นายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า สหรัฐมีแนวโน้มที่จะแซงหน้ารัสเซียขึ้นเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลกในปีหน้า เนื่องจากการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นสวนทางกับตลาดโลก
ในปีที่แล้ว การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 โดยแซงหน้าผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบีย
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยในช่วงต้นเดือนนี้ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 11 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในปลายปีนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจาก EIA ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว