สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากสต็อกน้ำมันที่พุ่งขึ้นของสหรัฐ และการแข็งค่าของดอลลาร์
ณ เวลา 23.39 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 85 เซนต์ หรือ 1.38% สู่ระดับ 60.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยสต็อกน้ำมันดิบทะยานขึ้น 3 ล้านบาร์เรล ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเพียง 933,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล โดยสูงกว่าที่ API รายงานเช่นกัน
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในวันนี้ได้ลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 23.50 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.25% สู่ระดับ 106.94 เยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.06% สู่ระดับ 90.67
นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด
นายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า สหรัฐมีแนวโน้มที่จะแซงหน้ารัสเซียขึ้นเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลกในปีหน้า เนื่องจากการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นสวนทางกับตลาดโลก
ในปีที่แล้ว การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเหนือระดับ 10 ล้านบาร์เรล/วันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 โดยแซงหน้าผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบีย
ทางด้าน EIA เปิดเผยในช่วงต้นเดือนนี้ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 11 ล้านบาร์เรล/วัน ภายในปลายปีนี้