สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการทรุดตัวของตลาดหุ้นทั่วโลก ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า หลังจากที่นายแกรี่ โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม
นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ และสต็อกน้ำมันที่พุ่งขึ้น ก็เป็นปัจจัยลบต่อตลาด
ณ เวลา 19.27 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.69% สู่ระดับ 62.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
เมื่อวานนี้ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.661 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 426.880 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เพื่อยืนยันตัวเลขจาก API
EIA ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยคาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันมากกว่า 120,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.17 ล้านบาร์เรล/วันภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐสามารถผลิตน้ำมันได้มากกว่าซาอุดิอาระเบียในปีที่แล้ว
ส่วนในปีหน้า EIA คาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 570,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.27 ล้านบาร์เรล/วัน