สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ตามการดีดตัวของตลาดหุ้น
ทั้งนี้ สถิติระบุว่า ตลาดน้ำมันปรับตัวสอดคล้องกับตลาดหุ้นติดต่อกันในช่วง 99 วันทำการที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดในรอบ 2 ปี
อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันยังคงถูกกดดันจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า สต๊อกน้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสแรก จากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการขยายตัวของอุปสงค์ในตลาดโลก
ณ เวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 12 เซนต์ หรือ 0.20% สู่ระดับ 61.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ IEA ปรับประมาณการอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ สู่ระดับ 99.3 ล้านบาร์เรล/วัน จาก 97.8 ล้านบาร์เรลในปีที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันของกลุ่ม ประเทศในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพิ่มขึ้นในเดือนม.ค. เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน โดยอยู่ที่ 2.871 พันล้านบาร์เรล และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีราว 53 ล้านบาร์เรล
IEA คาดการณ์ว่า อุปทานน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ สู่ระดับ 97.9 ล้านบาร์เรล/วัน โดยคาดว่าสหรัฐจะมีผลผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ สู่ระดับมากกว่า 11 ล้านบาร์เรล/วันภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่อุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน
การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลงในเดือนก.พ.สู่ระดับ 32.1 ล้านบาร์เรล/วัน นำโดยเวเนซุเอลาและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
IEA ปรับเพิ่มความต้องการน้ำมันโอเปกสู่ระดับ 32.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ จากตัวเลขประมาณการเมื่อเดือนที่แล้วที่ระดับ 32.3 ล้านบาร์เรล /วัน
นอกจากนี้ IEA ยังระบุว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม จะสร้างความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในเดือนหน้า
ทั้งนี้ EIA คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในเดือนเม.ย.ของสหรัฐ จะเพิ่มขึ้น 131,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 6.954 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ก่อนหน้านี้ EIA ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยคาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันมากกว่า 120,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.17 ล้านบาร์เรล/วันภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐสามารถผลิตน้ำมันได้มากกว่าซาอุดิอาระเบียในปีที่แล้ว
ส่วนในปีหน้า EIA คาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 570,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.27 ล้านบาร์เรล/วัน