สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นเกือบ 2% ในวันนี้ ขานรับสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดีดตัวขึ้น 1.18 ดอลลาร์ หรือ 1.86% สู่ระดับ 64.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงสวนทางคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สวนทางคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ตลาดน้ำมันยังคงถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะเพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 4 แท่น สู่ระดับ 800 แท่นในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้ แท่นขุดเจาะน้ำมันยังคงมีจำนวนมากกว่าระดับ 631 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ขณะที่อุปทานน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 97.9 ล้านบาร์เรล/วัน โดยคาดว่าสหรัฐจะมีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับมากกว่า 11 ล้านบาร์เรล/วันภายในสิ้นปีนี้
IEA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันของกลุ่มประเทศในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) เพิ่มขึ้นในเดือนม.ค. เป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน โดยอยู่ที่ 2.871 พันล้านบาร์เรล และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีราว 53 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในเดือนหน้า
ทั้งนี้ EIA คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ในเดือนเม.ย.ของสหรัฐ จะเพิ่มขึ้น 131,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 6.954 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ก่อนหน้านี้ EIA ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยคาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันมากกว่า 120,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.17 ล้านบาร์เรล/วันภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐสามารถผลิตน้ำมันได้มากกว่าซาอุดิอาระเบียในปีที่แล้ว
ส่วนในปีหน้า EIA คาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 570,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.27 ล้านบาร์เรล/วัน