สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 65.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2.05 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 69.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างอิหร่านและซาอุดิอารเบียซึ่งต่างก็เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) หลังจากซาอุดิอาระเบียได้ออกมาโจมตีว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำไว้กับชาติมหาอำนาจในปี 2558 เป็นข้อตกลงที่มีข้อบกพร่อง
ขณะเดียวกันซาอุดิอาระเบียประกาศว่าอาจจะพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของตนเอง หากอิหร่านยังคงเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ต่อไป