สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวที่ว่ากลุ่มโอเปกและรัสเซียเตรียมทำข้อตกลงจำกัดการผลิตน้ำมันในช่วงหลายปีข้างหน้า ได้ช่วยสกัดแรงลบของสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 65.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 70.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ หลังจากผลสำรวจของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 มี.ค.
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 5.7% และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 6.4% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่สัญญาน้ำมันทั้งสองปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับปัจจัยหนุนในระหว่างวัน หลังจากมกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียกำลังจัดทำข้อตกลงระยะยาวในการร่วมมือกันจำกัดการผลิตน้ำมันในช่วงหลายสิบปีข้างหน้า
"เรากำลังทำงานร่วมกันในการเปลี่ยนข้อตกลงแบบปีต่อปี เป็นแบบ 10-20 ปี โดยเป็นข้อตกลงแบบภาพใหญ่ แต่เรายังไม่ได้กำหนดรายละเอียด" มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น รัสเซีย เห็นพ้องกันในการปรับลดกำลังการผลิตตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว เพื่อผลักดันราคาน้ำมันในตลาดให้ดีดตัวขึ้น และต่อมามีการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้