สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 64.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 69.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 มี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 3.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2.0 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
สำหรับเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 5.32 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 มี.ค. ซึ่งสูงกว่าที่ API คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.52% แตะระดับ 89.80 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะลดความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น