สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงเกือบ 1% หลุดระดับ 63 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งอาจกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ณ เวลา 22.27 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 62 เซนต์ หรือ 0.98% สู่ระดับ 62.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
กระทรวงการคลังจีนได้เปิดเผยรายการสินค้าของสหรัฐที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสินค้า 106 รายการใน 14 หมวดสินค้า รวมถึงถั่วเหลือง รถยนต์ เครื่องบิน อาวุธยุทโธปกรณ์ และเคมีภัณฑ์ โดยรัฐบาลจีนจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐในอัตรา 25% ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะบีบให้จีนผ่อนปรนกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุน
USTR ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% จำนวน 1,300 รายการ ตั้งแต่สินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น การแพทย์ การบิน และเซมิคอนดักเตอร์ ไปจนถึงสินค้าจำพวกเครื่องจักรและเคมีภัณฑ์ รวมถึงสินค้าผู้บริโภคอย่างเครื่องซักผ้า เครื่องกวาดหิมะ และมอเตอร์ไซค์
ขณะเดียวกัน การที่รัสเซียเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนมี.ค.ก็เป็นปัจจัยลบต่อตลาด
ทั้งนี้ รัสเซียเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนมี.ค.สู่ระดับ 10.97 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 10.95 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ.
นักลงทุนกังวลว่าการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันของรัสเซียบ่งชี้ว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะลดความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิต
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันไม่สามารถดีดตัวขึ้น แม้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงสวนทางคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 246,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 537,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล