สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะมีแนวโน้มแตะระดับ 70 ดอลลาร์ ขณะที่มีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียต้องการผลักดันราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นถึงระดับ 80 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันได้ปัจจัยบวกจากการดิ่งลงของสต็อกน้ำมันสหรัฐ และความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
ณ เวลา 21.42 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.07% สู่ระดับ 69.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งแตะระดับ 69.56 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.2557
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลง 1 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินดิ่งลง 3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ร่วงลง 3.1 ล้านบาร์เรล
EIA ระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.86 ล้านบาร์เรล/วัน ก่อนฤดูกาลขับขี่รถยนต์ในสหรัฐ
ถึงแม้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการที่สหรัฐและพันธมิตรโจมตีซีเรียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงจับตากลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนที่ได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธโจมตีกรุงริยาดของซาอุดิอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อตอบโต้ซาอุดิอาระเบียที่ได้ทำการโจมตีทางอากาศต่อฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏ
สงครามกลางเมืองในเยเมนเปรียบเสมือนการทำสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน โดยซาอุดิอาระเบียให้การสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีอับดราบูห์ มันซูร์ ฮาดี แต่อิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏฮูตีที่มีความจงรักภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ โดยกลุ่มกบฏฮูตีครอบครองดินแดนทางตอนเหนือของประเทศ
นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ที่จะยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ก็ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า สหรัฐอาจคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ขณะใกล้เส้นตายในวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งจะส่งผลให้อิหร่านไม่สามารถส่งออกน้ำมันในตลาดโลก
ส่วนการผลิตน้ำมันของเวเนซุเอลายังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมน้ำมัน
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มได้เห็นพ้องกันในการปรับลดกำลังการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้วจนถึงปลายปีนี้เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด และมีกำหนดประชุมกันในเดือนมิ.ย. เพื่อทบทวนแผนการปรับลดกำลังการผลิต
นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้
ทางด้านเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียตั้งเป้าหมายราคาน้ำมันที่ระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งจะส่งผลให้ซาอุดิอาระเบียยังคงสนับสนุนให้โอเปกเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าดังกล่าว