สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ จากแรงขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นกว่า 1% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีเมื่อวานนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาโจมตีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ได้ดันราคาน้ำมันขึ้นในระยะนี้
โอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มได้เห็นพ้องกันในการปรับลดกำลังการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้วจนถึงปลายปีนี้เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด และมีกำหนดประชุมกันในเดือนมิ.ย. เพื่อทบทวนแผนการปรับลดกำลังการผลิต
ณ เวลา 18.56 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 69 เซนต์ หรือ 1.01% สู่ระดับ 67.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ วิพากษ์วิจารณ์กลุ่มประเทศโอเปกที่ได้ดันราคาน้ำมันขึ้นในระยะนี้
"ดูเหมือนโอเปกจะเอาอีกแล้ว แม้ว่าจะมีปริมาณน้ำมันมากมายในทุกที่ ซึ่งรวมถึงในเรือกักเก็บน้ำมันในทะเล แต่โอเปกก็ได้สร้างราคาเทียมของน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างมาก นี่เป็นเรื่องที่ไม่ดี และยอมรับไม่ได้" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ หลังจากที่เมื่อวานนี้ สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะมีแนวโน้มแตะระดับ 70 ดอลลาร์ โดยที่มีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียต้องการผลักดันราคาน้ำมันให้พุ่งขึ้นถึงระดับ 80-100 ดอลลาร์
ราคาน้ำมัน WTI พุ่งแตะระดับ 69.56 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2557
นอกจากนี้ ราคาน้ำมัน WTI มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ในสัปดาห์นี้ โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 1%
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ ซึ่งได้เพิ่มขึ้น 25% นับตั้งแต่กลางปี 2559 สู่ระดับ 10.54 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้สหรัฐเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลกตามหลังรัสเซีย ซึ่งผลิตน้ำมันเกือบ 11 ล้านบาร์เรล/วัน