สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากความกังวลที่ว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งรวมถึงการสู้รบระหว่างซาอุดิอาระเบียและกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนนั้น อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือเกือบ 0.4% ปิดที่ 68.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 74.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักข่าวอัล อาราบิยารายงานว่า เครื่องบินของกองทัพอากาศซาอุดิอาระเบียได้ยิงสกัดขีปนาวุธ 2 ลูกที่กลุ่มกบฏฮูตียิงเข้ามาในบริเวณชายแดนเมืองจาซานเมื่อวานนี้ โดยการยิงโต้ตอบกันครั้งล่าสุดนี้ ส่งผลให้นายซาเลห์ อัล-ซัมมัด แกนนำฝ่ายการเมืองของกลุ่มกฎฮูตีในเยเมน เสียชีวิต
นักวิเคราะห์จากบริษัทไฟรซ์ ฟิวเจอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า การสู้รบที่ยืดเยื้อระหว่างซาอุดิอาระเบียและกลุ่มกบฎฮูตีอาจส่งผลกระทบต่อการลำเลียงน้ำมันในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันเพื่อเก็งกำไร
ทั้งนี้ สงครามกลางเมืองในเยเมนเปรียบเสมือนการทำสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน โดยซาอุดิอาระเบียให้การสนับสนุนรัฐบาลของประธานาธิบดีอับดราบูห์ มันซูร์ ฮาดี แต่อิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏฮูตีที่มีความจงรักภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ โดยกลุ่มกบฏฮูตีครอบครองดินแดนทางตอนเหนือของประเทศ
นักลงทุนจับตาความขัดแย้งเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและสหรัฐ หลังจากนายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวว่า องค์กรพลังงานปรมาณูของอิหร่านพร้อมตอบโต้ในทุกรูปแบบ หากสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านตามที่เคยขู่ไว้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้