สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบ และน้ำมันเบนซินของสหรัฐเพิ่มขึ้นสวนทางคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 21.59 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.31% สู่ระดับ 67.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลง 2 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 840,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันลดลง 625,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ร่วงลง 2.6 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันลดลง 861,000 บาร์เรล
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันของสหรัฐ ซึ่งได้เพิ่มขึ้น 25% นับตั้งแต่กลางปี 2559 สู่ระดับ 10.6 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้สหรัฐเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลกตามหลังรัสเซีย ซึ่งผลิตน้ำมันเกือบ 11 ล้านบาร์เรล/วัน
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 5 แท่น สู่ระดับ 820 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2558
นอกจากนี้ นับตั้งแต่สิ้นเดือนม.ค. แท่นขุดเจาะน้ำมันมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ ยกเว้นเพียง 2 สัปดาห์ที่ลดลง
ขณะเดียวกัน การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐและฝรั่งเศสใกล้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการที่จะดำเนินการกับอิหร่าน ก็ได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงในวันนี้
ส่วนการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด