ราคาน้ำมัน WTI ลดลงเกือบ 1% หลังดอลล์แข็ง,จับตาทรัมป์ตัดสินใจเรื่องข้อตกลงอิหร่าน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 1, 2018 18:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงรอดูการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านอีกครั้งหรือไม่

ณ เวลา 18.10 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 64 เซนต์ หรือ 0.93% สู่ระดับ 67.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.4% แตะ 1.2036 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมัน มีราคาที่น่าดึงดูดใจลดน้อยลงสำหรับผู้ที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นวานนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า ผู้นำอิสราเอลได้เปิดเผยเอกสารจำนวนมากที่พิสูจน์ว่าอิหร่านกำลังดำเนินการโครงการลับเพื่อสร้างอาวุธนิวเคลียร์

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เปิดเผยเอกสารจำนวนมากที่เขาอ้างว่าได้รับจากอิหร่าน และพิสูจน์ว่าอิหร่านกำลังดำเนินการโครงการลับเพื่อสร้างอาวุธนิวเคลียร์ โดยก่อนหน้านี้ อิหร่านมักยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนเป็นโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติ แต่นายเนทันยาฮูได้เปิดเผยเอกสารจำนวนหลายพันหน้า ซึ่งเอกสารดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงหลักฐานใหม่ที่ทำให้ได้ข้อสรุปว่าอิหร่านมีโครงการลับในการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ โดยได้ปิดบังไว้เป็นเวลาหลายปี

นักลงทุนจับตาท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีเวลาจนถึงวันที่ 12 พ.ค.ในการตัดสินใจว่าจะถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านหรือไม่ โดยข้อตกลงฉบับนี้เกิดจากลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ P5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

ทั้งนี้ หากปธน.ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ก็จะปูทางให้สหรัฐทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ ซึ่งจะทำให้อิหร่านไม่สามารถส่งออกน้ำมันสู่ตลาด และจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลข่าวสารอื่นๆในวงการน้ำมัน สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบจากกลุ่มประเทศโอเปกลดลง 9.8% ในเดือนก.พ. มาอยู่ที่ 2.43 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558

ขณะที่การผลิตน้ำมันในเท็กซัสพุ่งขึ้นเกือบ 21% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สู่ระดับ 4.01 ล้านบาร์เรล/วัน

ส่วนการนำเข้าน้ำมันเบนซินจากยุโรปเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2559

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐมีกำหนดรายงานข้อมูลสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันพุธนี้ ซึ่งผลสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่าอาจเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล ซึ่งหากเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็จะเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ