สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่งเหนือ 71 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่สหรัฐจะทำการคว่ำบาตรอิหร่าน หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน
ณ เวลา 19.13 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ขยับขึ้น 2 เซนต์ หรือ 0.03% สู่ระดับ 71.38 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 ไตรมาส ซึ่งจะเป็นช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมันที่ยาวนานที่สุดในรอบกว่า 10 ปี โดยได้แรงหนุนจากจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อวันอังคาร ซึ่งจะปูทางให้สหรัฐทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่หลังจากนี้ 180 วัน นอกจากว่าสหรัฐจะมีการบรรลุข้อตกลงใหม่ภายในช่วงเวลาดังกล่าว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สหรัฐจะประกาศคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านจำนวน 200,000-1,000,000 บาร์เรล/วัน โดยตลาดจะเริ่มได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรดังกล่าวตั้งแต่ปีหน้า
อย่างไรก็ดี แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน แต่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียก็ได้ให้คำมั่นว่าจะรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมันต่อไป เพื่อประโยชน์ของผู้ผลิตและผู้บริโภค และเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจทั่วโลก
ขณะนี้ อิหร่านนับเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก โดยเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) โดยอิหร่านส่งออกน้ำมันมากกว่า 2.6 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากที่มีการลงนามในข้อตกลงในปี 2558 กับกลุ่มประเทศ P5+1 ซึ่งได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ P5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน เพื่อแลกกับการที่อิหร่านระงับการพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินต่างก็ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลเช่นกัน
อย่างไรก็ดี การผลิตน้ำมันของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยการผลิตได้เพิ่มขึ้น 27% นับตั้งแต่กลางปี 2559 สู่ระดับ 10.70 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้สหรัฐเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากรัสเซีย ซึ่งผลิตน้ำมันเกือบ 11 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ EIA คาดว่าการผลิตน้ำมันของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะ 12 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า