สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การผลิตน้ำมันในเวเนซุเอลามีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบ หากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนเซุเอลา หลังจากที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งซึ่งระบุว่านายนิโคลัส มาดูโร ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 72.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 2557
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 79.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากคณะทำงานของปธน.ทรัมป์ได้ประกาศไม่ยอมรับชัยชนะการเลือกตั้งของนายมาดูโร และกำลังพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา ขณะที่รัฐบาลของประเทศต่างๆก็ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน ซึ่งรวมถึงรัฐบาลชิลีที่ออกแถลงการณ์โจมตีว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาขาดความชอบธรรม ไม่มีความโปร่งใส และไม่ได้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย
ทางด้านนายเฮนรี ฟอลคอน และนายคาเวียร์ เบตุชชี สองผู้สมัครคู่แข่ง รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ได้ออกมาบอยคอตการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ โดยอ้างว่ามีการกระทำที่ส่อถึงการทุจริตเลือกตั้งและเอื้อประโยชน์ต่อนายมาดูโร
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮกล่าวว่า ปัจจุบันสหรัฐได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรบุคลากรหลายคนของเวเนซุเอลาอยู่แล้ว แต่หากมีการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลาซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกลดน้อยลง และอาจเป็นปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีก นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่หนุนตลาดน้ำมันด้วยเช่นกัน
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกในวันที่ 22 มิ.ย. โดยที่ประชุมจะทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมัน หลังจากที่มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน