สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนหน้า เพื่อชดเชยกับการที่อิหร่านและเวเนซุเอลาอาจลดการผลิตน้ำมัน จากการถูกสหรัฐคว่ำบาตร
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 71.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 79.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ร่วงลง 1 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 22 มิ.ย. เพื่อชดเชยกับการที่อิหร่านและเวเนซุเอลาอาจลดการผลิตน้ำมัน จากการถูกสหรัฐคว่ำบาตร โดยการผลิตน้ำมันในเวเนซุเอลาได้รับผลกระทบอยู่ก่อนแล้ว จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และหากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนเซุเอลา ก็จะทำให้การส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลายิ่งลดน้อยลง
สำหรับการประชุมโอเปกในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ที่ประชุมจะทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมันในวันประชุมดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน