สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า ซาอุดิอาระเบีย, กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก จะยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของของสหรัฐจะปรับตัวลดลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.48 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 68.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 2.11 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 77.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังมีรายงานข่าวว่า ซาอุดิอาระเบีย, กลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก จะยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้ โดยกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันยังคงมีความพึงพอใจต่อข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะสิ้นสุดในปลายปีนี้
รายงานยังระบุด้วยว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันอาจจะขยายเวลาของข้อตกลงดังกล่าวออกไปอีก เพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำให้ตลาดน้ำมันอยู่ในภาวะสมดุล แต่หากมีความจำเป็นต้องเพิ่มการผลิต ผู้ผลิตน้ำมันก็จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างระมัดระวัง และค่อยเป็นค่อยไป
ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่ม นำโดยรัสเซีย มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ โอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกจะทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 22 มิ.ย.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลง 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว