สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 65 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 21.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.48% สู่ระดับ 64.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล
ทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 587,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล พุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 784,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 955,000 บาร์เรล
รัฐมนตรีน้ำมันของอินเดียเปิดเผยว่า รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบียแจ้งต่อเขาว่า ซาอุดิอาระเบียกำลังพิจารณาทบทวนนโยบายลดกำลังการผลิตที่มีการดำเนินการในปัจจุบัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐได้เจรจาในทางลับกับซาอุดิอาระเบีย และสมาชิกบางประเทศในกลุ่มโอเปก เพื่อให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 1 ล้านบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้ สหรัฐได้เรียกร้องดังกล่าว หลังจากที่ราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้กล่าวโจมตีนโยบายน้ำมันของโอเปก รวมทั้งราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น
รัฐมนตรีน้ำมันของชาติอาหรับบางประเทศได้ประชุมกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาที่คูเวต ซิตี้ โดยแถลงการณ์หลังการประชุมระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะรับประกันการมีปริมาณน้ำมันที่มีเสถียรภาพในตลาดเพื่อรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น และชดเชยกับกำลังการผลิตที่ลดลงในบางประเทศ
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียกำลังหารือกันในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 1 ล้านบาร์เรล/วัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นมากเกินไป และภาวะขาดแคลนน้ำมันในตลาด
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความกังวลต่อการที่สหรัฐเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันสูงเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 215,000 บาร์เรล/วันในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 10.47 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยคาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันมากกว่า 120,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.17 ล้านบาร์เรล/วันภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐสามารถผลิตน้ำมันได้มากกว่าซาอุดิอาระเบียในปีที่แล้ว
สำหรับในปีหน้า EIA คาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 570,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.27 ล้านบาร์เรล/วัน
นักลงทุนจับตาการประชุมทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 22 มิ.ย. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่ม นำโดยรัสเซีย มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน