สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรุดตัวลงเกือบ 3% หลุดระดับ 65 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากที่ซาอุดิอาระเบีย และรัสเซียเตรียมเสนอปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มในวันที่ 22-23 มิ.ย.
ณ เวลา 22.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ดิ่งลง 1.93 ดอลลาร์ หรือ 2.89% สู่ระดับ 64.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียและซาอุดิอาระเบียให้การสนับสนุนในหลักการต่อการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ได้มีการจำกัดกำลังการผลิตเป็นเวลา 18 เดือน
"เราให้การสนับสนุนการเพิ่มกำลังการผลิต แต่เราจะหารือในรายละเอียดกับรัฐมนตรีน้ำมันคนอื่นๆในการประชุมสัปดาห์หน้า" นายโนวัคกล่าว หลังการหารือกับนายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียที่กรุงมอสโก
ทั้งนี้กลุ่มประเทศโอเปก และผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกจะทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 22-23 มิ.ย.
นายโนวัคกล่าวว่า ทางเลือกหนึ่งก็คือ การเพิ่มกำลังการผลิต 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.
ด้านนายฟาลีห์คาดว่า ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะบรรลุข้อตกลงที่สร้างความพึงพอใจ โดยเฉพาะต่อตลาด
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ
สหรัฐเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันสูงเป็นประวัติการณ์ โดยแตะระดับ 10.9 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 30% ในช่วงเวลาเพียง 2 ปี
ส่วนสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยคาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันมากกว่า 120,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.17 ล้านบาร์เรล/วันภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐแซงหน้ารัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐสามารถผลิตน้ำมันได้มากกว่าซาอุดิอาระเบียในปีที่แล้ว
สำหรับในปีหน้า EIA คาดว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 570,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.27 ล้านบาร์เรล/วัน
การผลิตน้ำมันของรัสเซียพุ่งแตะระดับ 11.1 ล้านบาร์เรล/วันในต้นเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำกว่า 11 ล้านบาร์เรล/วันที่ทำไว้ในเดือนพ.ค.