สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกกลุ่มโอเปกในสัปดาห์นี้ รวมทั้งข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 65.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 1.90 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 75.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 2.7% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่ากลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปกอาจตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ
นักลงทุนจับตาการประชุมอย่างเป็นทางการของกลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปกซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่ม นำโดยรัสเซีย มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่ของกลุ่มโอเปก อาจจะพิจารณาปรับเพิ่มกำลังการผลิต 500,000 บาร์เรล สู่ระดับ 1 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่รัสเซียอาจพิจารณาเพิ่มการผลิตสูงถึง 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ในการประชุมครั้งนี้
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังเกาะติดข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่จีนขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีจากน้ำมันที่นำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้การที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าจากจีน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนจำนวน 1,100 รายการที่จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และจากนั้นไม่นาน รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตอบโต้สหรัฐด้วยการออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ โดยสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) มีกำหนดเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในวันนี้ และสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันพรุ่งนี้