สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มในวันพรุ่งนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 66.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 34 เซนต์ หรือเกือบ 0.5% ปิดที่ 74.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มิ.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 3 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 700,000 บาร์เรล
นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปกซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่ม นำโดยรัสเซีย มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียอาจเสนอให้มีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมครั้งนี้ หลังจากนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียและซาอุดิอาระเบียให้การสนับสนุนในหลักการว่า ควรปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ได้มีการจำกัดกำลังการผลิตเป็นเวลา 18 เดือน