สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางคาดการณ์ที่ว่าสต็อกจะลดลง
ณ เวลา 23.37 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.27% สู่ระดับ 73.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีดตัวในช่วงแรก หลังมีข่าวว่าอิหร่านขู่สกัดการขนส่งน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย หากสหรัฐคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันอิหร่าน
นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน กล่าวเตือนว่า อิหร่านจะขัดขวางการขนส่งน้ำมันของประเทศต่างๆในภูมิภาค ถ้าหากสหรัฐใช้มาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน
แม้ว่านายรูฮานีไม่ได้ระบุรายละเอียดของแผนการดังกล่าว แต่พลตรีกาเซ็ม โซไลมานิ ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของประธานาธิบดีในการสกัดการส่งออกน้ำมันดิบของประเทศในอ่าวเปอร์เซีย
ก่อนหน้านี้ อิหร่านขู่ว่าจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญสำหรับประเทศในอ่าวเปอร์เซียไปยังทะเลอาหรับ
กองทัพเรือสหรัฐประกาศความพร้อมในการรักษาเสถียรภาพในการขนส่งสินค้าในอ่าวเปอร์เซีย หลังจากที่อิหร่านขู่ปิดช่องแคบฮอร์มุซเพื่อขัดขวางการขนส่งน้ำมันผ่านเส้นทางดังกล่าว
ทั้งนี้ กัปตันบิล เออร์บัน โฆษกกองบัญชาการกลางกองทัพเรือสหรัฐ กล่าวว่า "สหรัฐและพันธมิตรพร้อมที่จะรักษาความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค โดยเราจะค้ำประกันความมีอิสรภาพในการเดินเรือ และการขนส่งสินค้าอย่างเสรีในทุกๆที่ซึ่งกฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตให้เราทำ"
ผู้นำกองทัพสหรัฐรายหนึ่งกล่าวว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านมีความสามารถในการปิดช่องแคบฮอร์มุซเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่สหรัฐจะดำเนินการเปิดช่องแคบดังกล่าว หากเกิดสถานการณ์นั้นขึ้น
สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ และบริษัทน้ำมัน ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร
ทั้งนี้ วันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
ขณะนี้ อิหร่านผลิตน้ำมันราว 4.7 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก หรือเกือบ 5% ของปริมาณน้ำมันที่มีการผลิตทั่วโลก
ลูกค้าน้ำมันรายใหญ่ของอิหร่านได้แก่ จีน และอินเดีย
ขณะนี้ลูกค้าน้ำมันบางประเทศของอิหร่าน เช่น ญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลีใต้ ได้ส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน หากสหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน
นายสตีเฟน เบรนนอค นักวิเคราะห์ด้านน้ำมันจากพีวีเอ็ม ออยล์ แอสโซซิเอทส์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันจะพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์ หากอิหร่านทำการปิดกั้นการส่งออกน้ำมันจากอ่าวเปอร์เซีย
"ขณะนี้น้ำมันราว 17 ล้านบาร์เรล/วัน หรือราว 35% ของน้ำมันส่งออกที่มีการขนส่งทางเรือได้ใช้เส้นทางในอ่าวเปอร์เซีย การปิดกั้นการขนส่งน้ำมันในเส้นทางดังกล่าวจะทำให้ราคาน้ำมันทะยานขึ้นมากกว่า 100 ดอลลาร์" นายเบรนนอคระบุในรายงาน
"ผู้นำอิหร่านแสดงความมุ่งมั่นในการตอบโต้ต่อการที่สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งจะทำให้เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันต่อไป" นายเบรนนอคระบุ