สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) จากคำสั่งซื้อเก็งกำไร แต่รวมทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันร่วงลงอย่างหนัก จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่ลิเบียกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง ประกอบกับการคาดการณ์ที่ว่าอิหร่านจะยังคงสามารถส่งออกน้ำมัน แม้เผชิญกับการคว่ำบาตรจากสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนยังคงซึมซับรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่เตือนว่า การที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพิ่มการผลิตอาจกระทบกำลังการผลิตส่วนเกินในตลาด ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์เผยแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนคงที่ในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 71.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ราคาสัญญาร่วงลง 3.8%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 75.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ลดลง 2.3% ตลอดสัปดาห์
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นในวันศุกร์ แต่รวมทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันยังคงร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า ลิเบียเริ่มกลับมาส่งออกน้ำมันอีกครั้ง หลังจากที่ปิดสถานีส่งออกน้ำมัน 4 แห่งในช่วงก่อนหน้านี้
บรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียเปิดเผยว่ามีการเปิดสถานีส่งออกน้ำมัน 4 แห่ง หลังจากที่ได้ถูกปิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้มีการส่งออกน้ำมันราว 850,000 บาร์เรล/วันเข้าสู่ตลาด
ทางด้านนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะผ่อนคลายให้บางประเทศยังคงสามารถซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ขู่ว่า สหรัฐจะคว่ำบาตรประเทศที่ซื้อน้ำมันอิหร่านภายหลังจากวันที่ 4 พ.ย.
รายงานจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่า ซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2559 เพื่อสกัดราคาน้ำมันดิบที่ได้พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง
ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันราว 10.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับราว 10 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค.
ส่วนกลุ่มประเทศโอเปกผลิตน้ำมันราว 32.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 173,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.
โอเปกคาดการณ์ด้วยว่า การผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า นำโดยการผลิตน้ำมันจากสหรัฐ
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงซึมซับรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันทำการเพิ่มการผลิตเพื่อให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง อาจส่งผลให้กำลังการผลิตส่วนเกินในตลาดลดน้อยลง
"การผลิตน้ำมันที่ยังประสบภาวะชะงักงันในหลายประเทศ ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงแรงกดดันต่อปริมาณน้ำมันในตลาดโลก และหากมีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นจากตะวันออกกลางและรัสเซีย ก็จะส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตส่วนเกินในตลาด" รายงานของ IEA ระบุ
"ภาวะเปราะบางดังกล่าวได้เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันในขณะนี้ และมีแนวโน้มที่จะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป" รายงานระบุ
ทั้งนี้ หากกำลังการผลิตส่วนเกินในตลาดอยู่ในระดับสูง ก็จะช่วยลดผลกระทบหากเกิดภาวะตื่นตระหนกในตลาด แต่กำลังการผลิตส่วนเกินอยู่ในระดับต่ำในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการผลิตน้ำมันประสบภาวะชะงักงันในเวเนซุเอลา ลิเบีย และแคนาดา
ด้านเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยในวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนทรงตัวที่ระดับ 863 แท่นในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวของแท่นขุดเจาะน้ำมันได้ชะลอลงในเดือนนี้ หลังจากราคาน้ำมันดิบได้ร่วงลงตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.จนถึงปลายเดือนมิ.ย.