สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% เมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐประกาศผ่อนผันให้ประเทศต่างๆสามารถซื้อน้ำมันอิหร่านต่อไป แม้มีการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า สหรัฐอาจยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านในวันข้างหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 2.95 ดอลลาร์ หรือ 4.15% ปิดที่ 68.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ดิ่งลง 3.49 ดอลลาร์ หรือ 4.6% ปิดที่ 71.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักหลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ แถลงเมื่อวานนี้ว่า ประเทศผู้นำเข้านำมันบางรายจะได้รับการผ่อนปรนให้สามารถซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านได้ต่อไป ถึงแม้ว่าสหรัฐได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน พร้อมระบุว่ารัฐบาลสหรัฐไม่ต้องการสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดน้ำมันโลก
"เราต้องการให้ประเทศต่างๆลดการซื้อน้ำมันอิหร่านจนถึงระดับศูนย์ แต่ในบางกรณีหลายประเทศไม่สามารถทำเช่นนั้นในช่วงข้ามคืน เราจึงเสนอข้อยกเว้น" นายมนูชินกล่าว
นักลงทุนมองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านในวันข้างหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ และบริษัทน้ำมัน ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร
ทั้งนี้ วันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากข่าวที่ว่า บรรษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบียเปิดเผยว่ามีการเปิดสถานีส่งออกน้ำมัน 4 แห่ง หลังจากที่ได้ถูกปิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะทำให้มีการส่งออกน้ำมันราว 850,000 บาร์เรล/วันเข้าสู่ตลาด
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย