สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวหาจีนและสหภาพยุโรปกำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาทั้งสัปดาห์ ราคาน้ำมันได้ร่วงลงจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด และการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า ซึ่งจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมัน
ณ เวลา 22.58 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.50% สู่ระดับ 69.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญาน้ำมัน โดยทำให้สัญญามีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 20.17 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.55% สู่ระดับ 111.83 เยน ขณะที่ยูโรขยับขึ้น 0.04% สู่ระดับ 130.98 เยน และดีดตัวขึ้น 0.60% สู่ระดับ 1.1707 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.58% สู่ระดับ 94.60
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ กล่าวหาว่า จีนและสหภาพยุโรปกำลังปั่นค่าเงินเพื่อสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
"จีนและสหภาพยุโรป และประเทศอื่นๆ ได้ทำการปั่นค่าเงิน และปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่สหรัฐกำลังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และดอลลาร์กำลังแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆในแต่ละวัน ทำให้สหรัฐสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ท่ามกลางการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการที่ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ โดยได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกครั้งหนึ่ง
"สหรัฐไม่ควรถูกทำโทษเพราะเศรษฐกิจกำลังไปได้ดี การขึ้นดอกเบี้ยในขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อสิ่งที่เราได้ทำ สหรัฐควรได้รับโอกาสในการรับสิ่งที่สูญเสียไปจากการที่ประเทศอื่นปั่นค่าเงิน และทำข้อตกลงที่เอาเปรียบสหรัฐ" ข้อความในทวีตเตอร์ระบุ
การทวีตข้อความดังกล่าว ถือเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเฟดเป็นครั้งที่ 2 ของปธน.ทรัมป์ หลังจากที่เขาให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว CNBC ว่า การดำเนินนโยบายของเฟดอาจกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าว หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ ซึ่งเขาได้ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้
"ผมไม่รู้สึกยินดีต่อการทำงานของเฟด เพราะทุกครั้งที่เศรษฐกิจปรับตัวขึ้น พวกเขาก็ต้องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งผมไม่ค่อยสบายใจต่อเรื่องนี้ แต่ขณะเดียวกัน ผมก็ปล่อยให้พวกเขาทำในสิ่งที่พวกเขามองว่าดีที่สุด แต่ผมไม่ชอบงานของพวกเขาซึ่งได้กระทบต่อสิ่งที่เราทำ" ปธน.ทรัมป์กล่าว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมันของซาอุดิอาระเบียจะลดลงราว 100,000 บาร์เรล/วันในเดือนหน้า รวมทั้งการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล หรือ 6.2% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา