สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า ข้อพิพาทด้านการค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลกอาจส่งผลกระทบอุปสงค์น้ำมันและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 67.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 73.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ออกแถลงการณ์เตือนว่า สงครามการค้าและความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาดังกล่าวผ่านการเจรจาและดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
แถลงการณ์ของกลุ่ม G20 มีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ว่า เขาพร้อมที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าทุกประเภทที่นำเข้าจากจีน ในวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ หากมีความจำเป็น
อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 858 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐ และอิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเตือนนายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ว่า "อย่าได้ข่มขู่สหรัฐอีกแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นคุณจะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดกับผลของการกระทำที่รุนแรงในระดับที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ สหรัฐไม่ใช่ประเทศที่จะอดทนต่อคำพูดที่บ้าคลั่งของคุณที่สะท้อนถึงความรุนแรงและความตายอีกต่อไป จงระวังให้ดี!"
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความดังกล่าว หลังจากที่นายรูฮานีกล่าวว่า "อิหร่านใช้อำนาจอย่างยับยั้งชั่งใจ และเราจะไม่ต่อสู้หรือทำสงครามกับผู้ใด แต่ศัตรูจะต้องเข้าใจว่าการทำสงครามกับอิหร่านจะเป็นการทำสงครามที่สร้างความเสียหายมากกว่าสงครามที่เคยเกิดขึ้น"