สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) หลังจากผลสำรวจการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะช่วยหนุนความต้องการน้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 68.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 73.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากโพลล์สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยบลูมเบิร์ก ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล
ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะช่วยให้ความต้องการน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นด้วย โดยรัฐบาลจีนได้เปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูอุปสงค์ภายในประเทศในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดด้านการค้ามีแนวโน้มที่จะฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลง โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการลดหย่อนภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและอิหร่านอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดนายบาห์ราม กาสเซมิ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านจะทำการตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐพยายามที่จะปิดกั้นการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน
ทั้งนี้ แม้ว่านายกาสเซมิไม่ได้ระบุรายละเอียดการตอบโต้ของอิหร่าน แต่นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ได้ขู่ก่อนหน้านี้ว่า อิหร่านจะปิดช่องแคบฮอร์มุซ หากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐกระทบต่อการส่งออกของอิหร่าน
รัฐบาลสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร โดยวันที่ 4 พ.ย.เป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่