สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 68.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 74.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3 แท่น สู่ระดับ 861 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันหลังจากที่นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานรัสเซีย ส่งสัญญาณว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอาจมีการเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าที่ได้ตกลงกันไว้
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวลง เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้เข้ามาบดบังปัจจัยบวกจากตัวเลข GDP ที่ขยายตัวแข็งแกร่ง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาสสองของปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี และยังสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ด้านผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 97.9 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 97.1 และลดลงจากระดับ 98.2 ในเดือนมิ.ย.