สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ แต่ร่วงลงเมื่อพิจารณาทั้งสัปดาห์ โดยถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมัน
ณ เวลา 22.20 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ หรือ 0.57% สู่ระดับ 65.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมัน WTI มีแนวโน้มปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 7 โดยร่วงลงราว 3%
นักวิเคราะห์ระบุว่า การอ่อนค่าของสกุลเงินลีราของตุรกีจะกระทบต่อการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันเบนซินและดีเซลในปีนี้
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจจีนบ่งชี้ถึงการลดลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเศรษฐกิจกำลังเผชิญความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ
ขณะเดียวกัน ตัวเลขบ่งชี้ถึงปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในตลาด โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกจะลดลง
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 6.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล
สำหรับสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล
ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ถึง 3 เท่า
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐวันนี้ ขณะที่เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 แท่น สู่ระดับ 869 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2558
นอกจากนี้ การเพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน 10 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. จากการที่บริษัทน้ำมันมีแผนใช้จ่ายมากขึ้นในการสำรวจและผลิตน้ำมัน เนื่องจากคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะดีดตัวสูงขึ้นในปีนี้มากกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา