สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับรายงานข่าวที่ว่า จีนและสหรัฐจะจัดให้มีการเจรจารอบใหม่ในเดือนนี้เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 65.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 71.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า จีนได้ตอบรับคำเชิญของสหรัฐในการเจรจาการค้ารอบใหม่เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า คณะผู้แทนของจีน ซึ่งนำโดยนายหวัง โชเหวิน รมช.พาณิชย์จีน มีกำหนดจะเดินทางเยือนสหรัฐในเดือนนี้ เพื่อเจรจากับตัวแทนเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ ซึ่งนำโดยนายเดวิด มัลพาส ปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ โดยการเจรจาครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าที่เกิดขึ้นในขณะนี้
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า สหรัฐและจีนจะจัดการเจรจาการค้ารอบใหม่ในวันที่ 22-23 ส.ค. โดยวันที่ 23 ส.ค.ตรงกับวันที่สหรัฐจะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ขู่ตอบโต้สหรัฐเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ แต่เมื่อพิจารณาตลอดทั้งสัปดาห์พบว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงทั้งสิ้น 2.5% ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลงทั้งสิ้น 1.3% โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ ระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนคงที่ที่ระดับ 869 แท่นในสัปดาห์นี้