สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 7 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ภาวะน้ำมันตึงตัวจากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันยังคงถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าจะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งความต้องการใช้น้ำมัน
ณ เวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.49% สู่ระดับ 66.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีในวันที่ 6 ส.ค.เพื่ออนุมัติมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ โดยสหรัฐจะรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรต่อภาคการเงินและอุตสาหกรรมของอิหร่าน
มาตรการที่สหรัฐใช้คว่ำบาตรอิหร่านดังกล่าว ถือเป็นมาตรการรอบแรก ก่อนที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบ 2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งจะพุ่งเป้าไปยังการทำธุรกรรมของธนาคารกลาง การส่งออกน้ำมัน และการขนส่งสินค้าทางเรือของอิหร่าน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน จะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดลดลงราว 600,000-1,500,000 บาร์เรล
นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการผ่อนคลายความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่ทางการจีนยืนยันว่า คณะผู้แทนของจีนจะเดินทางไปยังสหรัฐภายในเดือนนี้ เพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า การเจรจาดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 22-23 ส.ค. ซึ่งวันที่ 23 ส.ค.จะเป็นวันที่สหรัฐจะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า คณะผู้แทนของจีน ซึ่งนำโดยนายหวัง โชเหวิน รมช.พาณิชย์จีน จะทำหน้าที่ในการเจรจากับเจ้าหน้าที่สหรัฐ ซึ่งนำโดยนายเดวิด มัลพาส ปลัดกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ วอลล์สตรีท เจอร์นัลยังระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของทั้งสหรัฐและจีนกำลังเร่งทำโร้ดแมพเพื่อผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงการค้า ซึ่งจะนำไปสู่การประชุมสุดยอดระหว่างปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง ในเดือนพ.ย.